เศร้า! เรือหางยาวล่มกระบี่ แม่ชาวมาเลฯตั้งครรภ์และลูกเสียชีวิต

เศร้า! เรือหางยาวล่มกระบี่ แม่ชาวมาเลฯตั้งครรภ์และลูกเสียชีวิต

เศร้า เรือหางยาวล่มกระบี่ ส่งผลให้แม่ชาวมาเลเซียที่ตั้งท้องและลูกสาววัย 7 ขวบเสียชีวิต หลังจากสำลักน้ำเข้าไปในปอดมากเกินไป เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ เรือหางยาวนำเที่ยวอับปางบริเวณแหลมหางนาค ม.2 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย 3 คน และกัปตันเรือลอยคอยอยู่กลางทะเล ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลต่อไป โดยชาวมาเลเซีย 2 คนที่ลอยคอได้รับบาดเจ็บสาหัส

ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 3 ราย เป็นพ่อแม่ลูก โดยลูกเป็นเด็กผู้หญิง ส่วนแม่ตั้งครรภ์อยู่ด้วย

นาย วริศ พลเมืองดีและเป็นชาวประมงเล่าว่า ตนได้ออกไปเก็บลอบไซหมึก บริเวณทะเลแหลมหางนาค และเกิดฝนตกลมพายุพัดแรง จึงได้นำเรือแล่นกลับเข้าฝั่ง แต่ระหว่างทางหันไปเห็นคนหลายคนกำลังเกาะกลุ่มลอยคอกันกลางทะเล โดยมีอยู่ 1 คน ใส่เสื้อชูชีพ ส่วนที่เหลือ 3 คน เกาะหลังคนที่ใส่ชูชีพ จึงได้หันหัวเรือกลับไปช่วยพบทุกคนท่าทางอิดโรย จึงได้ช่วยขึ้นเรือและนำกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือคลองทรายพร้อมกับแจ้งกู้ภัยนำส่ง รพ.กระบี่

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมามีรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเสียชีวิต 2 ศพ ได้แก่ แม่ อายุ 37 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ และลูก อายุ 7 ปี จากการสำลักน้ำเข้าไปในปอดมากจนเกินไป จนทำให้หมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนพ่อ อายุ 38 ปี และ นายสาล๊า บุตรสา อายุ 45 ปี คนขับเรือหางยาว ปลอดภัย แต่ต้องนอนรักษาตัว อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ไฟไหม้สาทรวันนี้ บริเวณซอยเจริญราษฏร์ 3 เผาทำลายบ้าน 5 หลังคาเรือน ตรวจสอบไม่พบผู้ติดค้าง ยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้ ศูนย์วิทยุพระราม199 ได้แจ้งข่าวว่าเกิดเหตุ ไฟไหม้สาทร บริเวณบ้านเรือประชาชน ภายใน ซอยเจริญราษฏร์ 3 ขณะนี้เพลิงสงบ เบื้องต้นเพลิงลุกไหม้ประมาณ 5 หลังคาเรือน จุดเกิดเหตุนั้นเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 8.53 ก่อนที่จะควบคุมเพลิงได้ในเวลา 10.14

รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ และจากการเข้าตรวจค้นในพื้นที่แล้วไม่พบผู้ติดค้างภายในอาคาร คาดไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้สาทรวันนี้

โฆษกกองทัพเรือยืนยัน ผู้เสียชีวิตเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 22 นาย รอพิสูจน์อัตลักษณ์อีก 2 นาย ยังมีผู้สูญหายอีก 7 นาย พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยความคืบหน้ากรณีตามหากำลังพลทหารเรือหลวงสุโขทัยว่า 08.20 น. วันนี้ พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ที่ชายฝั่งของเกาะเสม็ด จ.ชุมพร

โดยเรือหลวงตาปีได้เก็บกู้ร่างนำส่ง มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล เบื้องต้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเรือหลวงสุโขทัยในขณะนี้อยู่ที่ 22 นาย ระบุตัวตนได้แล้ว 20 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 7 นาย

สำหรับในวันนี้ จะมีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นายประกอบด้วย 1.จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์ 2.จ่าเอกชูชัย เชิดชิด 3.จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช 4.จ่าโท สหรัฐ อีสา 5.จ่าตรี สถาพร สมเหนือ 6.จ่าตรี นพณัฐ คำวงค์

สามีถูกฟัน 7 แผล บาดแผลเต็มตัว ภรรยากลับมาถึงกับช็อก

ภรรยากลับบ้านมาถึงกับช็อกพบศพ สามีถูกฟัน 7 แผล บาดแผลเต็มตัว เพื่อนบ้านเผยผู้ตายไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อยู่บ้านกับภรรยาแค่สองคน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุมหาชัย สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆาตกรรม ชายถูกฟัน 7 แผล ที่บริเวณทุ่งนา บ้านเชียงเหียน ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมกลางทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้าน 4 กิโลเมตร ภายในกระท่อมตรงข้างโอ่งน้ำขนาดใหญ่ พบศพนายสำรอง ชายวัย 66 ปี นอนเสียชีวิต ในสภาพศพสวมเสื้อกันหนาวสีเขียวอ่อน กางเกงขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกของมีคมฟันที่หน้าหลายแห่ง ตั้งแต่บริเวณเหนือคิ้วข้างซ้าย โหนกแก้มด้านซ้ายและขวา คางด้านซ้าย รวมแล้วประมาณ 7 แห่ง

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีดพร้าขนาดความยาวประมาณ 60 ซม. จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนตรวจสอบบริเวณโดยรอบเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นคนที่พบศพคือภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งมาอยู่ที่กระท่อมปลายนากับสามี ก่อนเกิดเหตุภรรยาไปขุดปูนา กลับมาถึงกระท่อมก็ค่ำแล้ว ก่อนที่จะพบว่าสามีถูกฟันเสียชีวิต จึงโทรศัพท์เรียกญาติพี่น้องให้ออกมาดู และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ

ขณะนี้กำลังสอบปากคำภรรยาว่า พบเห็นใครหรือมีใครมาที่กระท่อมขณะเกิดเหตุหรือไม่ ส่วนอาวุธในที่เกิดเหตุ คือมีดพร้า จนท.พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบว่า เป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ คาดว่าจะทราบตัวผู้ก่อเหตุในไม่ช้า

ขณะที่เพื่อนบ้านเผยว่า นายสำรองอาศัยอยู่กับภรรยาที่กระท่อมหลังดังกล่าวเพียง 2 คน เพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่กระท่อมได้ 1 อาทิตย์ เพราะน้ำท่วม สำหรับนิสัยของนายสำรองเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เว็บสล็อตแท้ สล็อตเว็บตรง